การเลือกซื้อ Rolex GMT Pepsi

หน้าแรก Rolex โรเล็กซ์ การเลือกซื้อ Rolex GMT Pepsi


แฟน ๆ Rolex Pepsi หรือ GMT Master BLRO อยากให้ลองอ่านบทความนี้ค่ะ เนื่องจากช่วงหลัง ๆ มีคนมาปรึกษาเกี่ยวกับนาฬิการุ่นนี้มาก เราเลยไปรวบรวมข้อมูลมาสรุปให้ บทความนี้จะอิงกับ Serial Number ซึ่งอาจจะมีคลาดเคลื่อนระหว่างปี ยังไงลอง inbox มาสอบถามกันได้ค่ะ และถ้าคุณไม่พร้อมที่จะรู้เกี่ยวกับ Pepsi ของคุณในมุมที่ละเอียดขึ้น แนะนำให้ข้ามบทความนี้ไปเลยค่ะ

9 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Rolex Pepsi
—————————————-
1) ควรซื้อ GMT Master ที่มีใบ Certificate ถ้าทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม 16700-16710 เหตุผลจะอยู่ในข้อต่อ ๆ ไปค่ะ

2) Rolex Pepsi ชื่อจริง ๆ คือ “Rolex GMT Master” ค่ะ แต่ถ้าเป็นรุ่น 16710 ขึ้นไปจะเป็น “GMT Master II”

3) วง Bezel สีน้ำเงิน-แดง หรือ Pepsi จะเป็นสีปกติและเป็นสีหลักของ GMT Master ทั้งรุ่น I และ II ส่วน สีดำ+แดง (Coke) และ ดำล้วน (LN) เป็นสีที่ทำเพิ่มพิเศษค่ะความนิยมจะน้อยกว่า และ GMT Master II เซรามิครุ่นใหม่ล่าสุดจะมีสีเพิ่มคือ น้ำเงิน-ดำ (BLNR) ที่หลายคนเรียกว่า “Batman”

4) Ref.6542 (1954-1963) รุ่นแรกของ GMT Master ปรับปรุงมาจาก Rolex Turn-O-Graph แค่ใส่เข็มที่ 4 ที่เดินแบบ 24 ชม ต่อรอบ แล้วใส่วง Bezel สีแดง/น้ำเงินให้หมุนได้ลงไป ถึงจะเก่าแต่แพงค่ะ ราคาจะอยู่ตั้งแต่ 6 แสนถึงล้านกว่าบาท รุ่นนี้จะไม่มีในตารางในรูปเพราะมัน Vintage มาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า Bezel เคลือบด้วย Bakelite (เรซินชนิดหนึ่ง) ถ้าไม่แตกเสียก่อนจะราคาหลักล้านไม่ว่าจะมี Certificate หรือไม่ก็ตาม

5) Ref.1675 (1960-1979) รุ่นที่ 2 ผลิตออกมาสองแบบคือ วงน้ำเงิน-แดง (Pepsi) และวงดำล้วน ลักษณะเด่นคือกระจกเป็นพลาสติก ข้อสังเกตภายนอกคือเข็ม GMT จะอยู่ลึกสุดในสุด และใช้เครื่องที่ปรับวันที่ไม่ได้เวลาตั้งวันที่ต้องหมุนเข็มไปจนกว่าวันที่จะตรง รุ่นนี้ต้องดูตามสภาพค่ะ แต่ 1675 มีอายุการจำหน่ายที่ยาวนานมากคือ 20 ปี สินค้ามีในตลาดเยอะค่ะ รุ่นนี้ถ้ากล่องใบครบสภาพดี ราคาต้องมี สองแสนกว่าขึ้นไปค่ะ แต่อาจจะมีการสลับขอบจากดำมาเป็นน้ำเงิน-แดงได้ และตรวจสอบยากมาก ยังไงถ้ามี Certificate หรือ Price Tag ขออย่าให้มีตัวอักษร “LN” ที่ระบุสีว่าเป็นสีดำเป็นใช้ได้ค่ะ

6) Ref.16750 (1978-1989) GMT Master รุ่นที่ 3 ยังคงใช้กระจกพลาสติกอยู่ แต่รุ่นนี้สามารถแยกปรับวันที่ได้แล้ว (Quick Set) เหมือนนาฬิกาปัจจุบัน รุ่นนี้ดูจากภายนอกจะใส่เข็มชั่วโมงไว้ในสุด และถ้าเจอหน้าปัดสีดำด้านและหลักตัวเลขไม่เดินขอบด้วย White Gold จะเป็นตัวหายากค่ะ แต่น่าเสียดายส่วนมากจะโดนสลับเปลี่ยนหน้าปัดหมดตอนเอาไป Service ต้องเทียบดูจาก Serial Number เอาว่า ถ้า เลข 9 แสนขึ้นแล้วหน้าปัดดำเงา (Glossy) คือถูกต้อง แต่ถ้า Serial น้อยกว่า 9 แสนแล้วหน้าปัดดำเงาไม่ใช่ดำด้าน คือคงถูกเปลี่ยนหน้าปัดมาค่ะ ส่วนวง Bezel ก็ปัญหาเดิม คืออาจจะถูกสลับจากขอบดำล้วนเป็น Pepsi ได้ ยังไงขอให้อย่าให้เจอ “LN” ที่ระบุสีดำก็ OK ค่ะ และถ้าคิดจะเล่นรุ่นนี้ให้ลองหา Series R Pepsi เพราะเป็น Series สุดท้ายของรุ่น และเป็นตัวอักษร Series ตัวแรกของ Rolex

7) Ref.16760 (1983-1989) ยังอยู่ในรุ่นที่ 3 แต่ Rolex สร้างรุ่นนี้มาเป็นต้นแบบของ GMT Master II มีลักษณะเด่นเยอะคือ เป็น “Coke” รุ่นแรก และมีแต่ Bezel Coke สีดำ-แดงจำหน่ายเท่านั้น ใช้กระจก Sapphire แล้ว ตัวเรือนหนาจนคนมักเรียกว่า “Fat Lady” บ่าป้องกันเม็ดมะยมขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและปรับเข็มชั่วโมงแยกจากเข็ม GMT ซึ่งคือปฐมบทของ GMT Master II รุ่นนี้ไม่ต้องลุ้นมากเพราะมันมีแต่ Bezel สี Coke เท่านั้น และถ้าหาได้ให้เลือก Series R เพราะเป็น Series สุดท้ายของรุ่น และเป็นตัวอักษร Series ตัวแรกของ Rolex น่าแปลกที่ราคา 16760 ไม่สูงขึ้นมาก คือไม่ถึงสองแสนในปัจจุบันทั้ง ๆ ที่มันเป็น Coke รุ่นแรก และผลิตไม่เยอะ ก็นี่แหละค่ะคนนิยมแต่ Pepsi ก็เลยทำให้ราคาของ GMT สีอื่น ๆ ไม่ขยับจนต้องดิ้นรนไปสลับ Bezel เป็น Pepsi กันหมด แต่ต้องไม่ใช่รุ่น 16760 นะคะ

8) Ref.16700 (1988-1999) ผลิตมารับช่วงต่อจาก 16750 โดยใช้เครื่องใหม่ปรับเข็ม GMT แยกได้ กระจก Sapphire รุ่นนี้ผลิตสองสีเหมือนเดิมคือ วง Pepsi กับ วงดำล้วน ลักษณะเด่นคือใช้ระบบ Serial Number แบบตัวอักษรนำหมดแล้ว (R-A) ตัวเรือนหนาเหมือน 16760 (Fat Lady) จริง ๆ รุ่นนี้ไม่ควรจะผลิตออกมาเลยเพราะ Rolex ก็ออก GMT Master II 16710 มาเวลาไล่เลี่ยกัน แล้วตั้งราคา 16700 ให้ถูกกว่า เพราะคนส่วนใหญ่ดูไม่ออกระหว่าง 16700 กับ รุ่นใหม่ 16710 (และอาจจะไม่สนใจด้วยซ้ำ) ถ้าจะซื้อรุ่นนี้ขอแนะนำให้ในใบ Certificate อย่าเห็น 16700LN เป็นใช้ได้ เพราะมันระบุว่ามันคือวงดำล้วน แล้วถ้านาฬิกากลายเป็นวง Pepsi ก็อาจจะเสียความรู้สึกกันได้ค่ะ

9) Ref.16710 (1989-2007) นี่คือ GMT Master II รุ่นแรกออกมาเพื่อจะส่ง 16700 ออกไปจากตลาดแต่ด้วยความที่มันแพงกว่าคนเลยยังคงนิยมเลือกเล่น 16700 ในเวลานั้นพอสมควร รุ่น 16710 นี้มีความหลากหลายเรียกได้ว่ามากที่สุดของ GMT Master ด้วยกัน ดังนั้นคุณต้องศึกษามันดี ๆ ก่อนซื้อค่ะ ด้วยความที่ 16710 มีอายุยาวนานถึง 19 ปี มีการเปลี่ยนแปลงมากมายจนเราจะบอกเพียงแค่หา Rolex Pepsi 16710 อย่างเดียวคงไม่พอ เลยต้องแยกย่อยดังนี้ค่ะ
9a) อันดับแรกสิ่งที่ที่บอกว่า 16700 ต่างกับ 16710 แรง ๆ คือการปรับเข็ม ถ้าเป็น 16710 จะปรับเข็มชั่วโมงแยกจากเข็ม GMT ได้ และการปรับวันที่โดยการหมุนเข็มชั่วโมงเอาค่ะ ซึ่งเป็นหลักการปกติของนาฬิกา GMT ในยุคปัจจุบัน 16700 จะปรับเข็มชั่วโมงแยกจากเข็ม GMT ไม่ได้

9b) ปีที่มีการปรับปรุง 16710 สรุปคร่าว ๆ ดังนี้นะคะ ปี 98 เริ่มใช้พรายน้ำ Luminova, พอปี 99 upgrade มาเป็น Super Luminova, ปี 2000 ใช้หัวสายเป็นแบบคอแข็ง, ปี 2002 ผลิตรุ่นหูตัน, ปี 2003 เริ่มใช้กระจก Laser มงกุฎ, ปี 2005 เริ่มใช้ Certificate card เป็นพลาสติก และปี 2007 ปีสุดท้าย ปิฉากที่ Series M ใช้เครื่อง 3186 ที่เป็นเครื่องของ GMT Master II ที่ใช้ถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ต้องบอกก่อนว่า มันอาจจะไม่ตรงกับปีที่คุณซื้อนะคะ เพราะเราพูดถึงปีที่ผลิต

9c) 16710 มีวง Bezel สามสี คือ Pepsi,Coke และ ดำล้วน เรียกว่าขายครบทุกสี Certificate ของ Bezel สีดำล้วนมันจะบอกว่า “LN” ถ้าจะซื้อควรเลือกเรือนที่มีใบ Cer มาด้วย ไม่งั้นคุณอาจจะเจอรุ่น Bezel ดำล้วน (16710LN) ที่นิยมน้อยกว่ามาเปลี่ยนเป็น วง Pepsi แล้วขายได้ราคาดีขึ้น …จริง ๆ มันก็ไม่เลวร้ายมากหรอกค่ะ แต่มันอาจจะเสียความรู้สึกว่าเห็น Certificate แล้วสีไม่ตรงรุ่น บางคนมี Certificate ที่ลงท้าย LN ไว้แต่เปลี่ยนเป็นวง Pepsi มาแล้วเลยอาจจะตัดสินใจขาย โดยไม่ให้ Certificate มาด้วยก็มีค่ะ

9d) Pepsi ที่ดีที่สุด คือต้องเป็น 16710 Series M วง Pepsi แท้ (16710B) เพราะปรับปรุงจนมาถึงขีดสุดเรียกได้ว่า Upgrade มาจนครบ ก่อนเข้ายุค GMT ขอบ Ceramic ที่สำคัญ Series M เป็น Series สุดท้ายของ Pepsi Steel อีกด้วย ถ้าได้ตามนี้กล่องใบครบ ราคา 2.6 แสนก็มีคนซื้อค่ะ ราคาเกือบเท่า GMT Blue-Black เลยค่ะ ต้องไม่ลืมว่า ปีที่แล้ว 2014 Rolex ออก 116719BLRO หรือ Pepsi ที่ทำด้วย White Gold มาราคาหลักล้าน ซึ่งแปลว่า คุณจะไม่ได้เห็น Pepsi ที่เป็น Stainless Steel อาจจะอีก 10 ปี เพราะยากมากที่เขาจะออก Pepsi Steel ในรุ่นปัจจุบันมาซ้อนกับรุ่น White Gold เพราะมันจะเหมือนกันมาก ๆ ดังนั้นหากใครกำลังหา Pepsi คงได้รับประโยชน์จากบทความนี้ค่ะ แต่ถ้าใครซื้อแล้วต้องขออภัยด้วยถ้าข้อมูลด้านบนอาจจะทำให้คุณไม่สบายใจค่ะ


ขอขอบคุณ: www.watchbyladda.com