การเลือกใช้สีห้องครัวอย่างเหมาะสม สวยงาม

เราเน้นย้ำเสมอว่าพื้นที่ในบ้านที่เราใช้งานมากที่สุดและบ่อยครั้งที่สุดคือห้องครัว บางคนอาจคิดว่าเราใช้เวลาในห้องนอนมากกว่าแต่การใช้งานห้องนอนเกือบทั้งหมดจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนในช่วงค่ำคืน ขณะที่ห้องครัวเป็นฟังก์ชั่นที่เราต้องใช้เกือบตลอดทั้งวัน นักออกแบบบางคนยกให้ห้องครัวเป็นศูนย์กลางของบ้านที่ช่วยสร้างความอบอุ่นในครอบครัวและบางครั้งสามารถใช้ต้อนรับแขกเหรื่อได้ด้วย ดังนั้นการตกแต่งห้องครัวให้ดูดีมีสไตล์จึงเป็นเรื่องสำคัญในอันดับต้นๆของการแต่งบ้าน วันนี้ เราขอนำเสนอวิธีการเลือกสีห้องครัวมาฝากกัน



1. เลือกสีสันตามใจชอบ ไม่มีคำว่าผิดหรือถูก แต่ควรเน้นความสดใส

การเลือกสีในห้องครัวไม่มีคำว่าผิดหรือถูก นักออกแบบมักแนะนำให้เจ้าของบ้านเลือกสีห้องครัวให้มีความสดใสซึ่งจะช่วยกระตุ้นความหิวและอยากอาหารได้ สีจัดจ้านอย่างส้ม แดงและเหลืองเป็นสีที่เราพบเห็นเป็นประจำในการตกแต่งบ้าน ขณะที่บางคนเลือกโทนเรียบๆ อย่างสีขาวและงานไม้ซึ่งก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศอันอบอุ่นและเงียบสงบได้เช่นกัน


2. สีในห้องครัวสามารถเปลี่ยนได้บ่อยครั้ง

เจ้าของบ้านหลายคนมักไม่สามารถตัดสินใจเลือกสีในห้องครัวได้อย่างง่ายดายนัก เนื่องจากกลัวการตัดสินใจผิดพลาดและต้องใช้ครัวสีประหลาดๆไปอีกนานหลายปี แท้จริงแล้ว สีในห้องครัวสามารถเปลี่ยนได้บ่อยครั้งเพราะส่วนใหญ่แล้วห้องครัวมักมีพื้นที่เล็ก ไม่กว้างขวางเหมือนกับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนที่ต้องใช้งบประมาณมากกว่า เราสามารถเปลี่ยนสีหน้าบาน เคาท์เตอร์หรือพื้นได้ สิ่งที่ควรคำนึงมากกว่าสีก็คือดีไซน์ของตัวตู้บิลท์อินที่เราไม่สามารถเปลี่ยนได้บ่อยครั้งเนื่องจากมีราคาสูง

3. ไม่จำเป็นต้องทำสีห้องครัวให้เข้ากับตัวบ้าน

การทำสีในห้องครัวไม่จำเป็นต้องใช้สีไปในทิศทางเดียวกับตัวบ้าน แต่ก็ไม่ควรใช้สีที่โดดเด่นแตกต่างกันมากเกินไป หากพื้นที่ส่วนอื่นๆ เน้นใช้สีขาวเป็นหลัก ห้องครัวสามารถทำสีได้หลากหลายรูปแบบตามต้องการ แต่ถ้าบ้านของคุณเน้นงานไม้ในการตกแต่งภายในห้องครัวก็สามารถใช้งานไม้เข้ามาสลับกับสีแบบจัดจ้านได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะดูประหลาดตาแต่อย่างใด


4. เลือกสีสันของตู้บิลท์อินที่หลากหลายและมิกซ์แอนด์แมตช์ให้ลงตัว

การตกแต่งตู้บิลท์อินด้วยสีแบบโทนเดียวนั้นล้าสมัยไปแล้ว ห้องครัวในยุคโมเดิร์นมักใช้การผสมผสานสีที่แตกต่างกัน 1-3 เฉดสี โดยเฉพาะห้องครัวที่มีขนาดกว้างขวางและมีเคาท์เตอร์ไอส์แลนด์ตรงกลางห้องซึ่งสามารถเลือกใช้สีได้แตกต่างกัน แต่การเลือกสีให้ลงตัวอาจต้องปรึกษากับนักออกแบบให้ดี เพราะจะต้องเข้ากับดีไซน์ตู้ต่างๆด้วย

5. เน้นสีในห้องครัวให้สวยงามด้วยแสงไฟที่เหมาะสม

สีสันในห้องครัวที่คุณคิดว่าสวยอาจดูหม่นหมองไปได้เมื่อติดตั้งแสงไฟที่ไม่เหมาะสม หนึ่งในปัจจัยในการตกแต่งห้องครัวให้สวยงามคือการติดตั้งไลท์ติ้งที่ดี ไม่เพียงจะช่วยสร้างบรรยากาศเท่านั้นแต่ยังให้ความปลอดภัยในการทำอาหารซึ่งจะต้องหยิบจับมีดและของมีคมอยู่ตลอดเวลา ควรจะเลือกแสงไฟสร้างบรรยากาศ แสงไฟจากโคมไฟและแสงไฟใต้ตู้บิลท์อินผสมผสานกัน


6. การใช้สีธรรมชาติไม่จำเป็นต้องดูน่าเบื่อเสมอไป

เจ้าของบ้านบางคนอาจคิดว่าการใช้สีธรรมชาติอย่างสีน้ำตาล เทาและขาวในห้องครัวทำให้บรรยากาศดูน่าเบื่อ แท้จริงแล้วสีธรรมชาติสามารถจับคู่กับวัสดุอื่นๆ อย่างพื้นไม้สวยๆ เมทัลลิกแบบล้ำๆ และแสงไฟที่ลงตัวเพื่อเสริมสร้างความสะดุดตาได้ ขณะที่ห้องครัวสีขาวล้วนก็สามารถสร้างบรรยากาศแบบเรียบหรู minimalism ได้หากตกแต่งอย่างลงตัว

7. ไม้ธรรมชาติสร้างความงามได้เช่นกัน

การไม่เลือกใช้สีใดๆ เลยอาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับบางคนที่ชื่นชอบบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการเน้นเนื้อไม้ที่ดูสวยงามอ่อนโยน ทั้งตู้บิลท์อิน ท็อปเคาท์เตอร์และพื้นจะสร้างความงามแบบที่สามารถใช้งานได้ยาวนานและไม่ตกยุคง่ายๆ พร้อมกับสร้างบรรยากาศธรรมชาติและความอบอุ่นให้แก่ภายในตัวบ้าน


8. เลือกสีกระเบื้องผนังแบบสดใส

เมื่อเลือกสีสันของตู้หน้าบานได้แล้ว การเลือกกระเบื้องผนังห้องครัวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นักออกแบบส่วนใหญ่มักแนะนำสีทีสะดุดตาอย่างเขียว ฟ้า แดงและเหลืองสำหรับห้องครัวที่ดูเรียบง่ายเพื่อเพิ่มแรงดึงดูด แต่ถ้าใช้สีหน้าบานบิลท์อินแบบสดใสอยู่แล้ว ก็ควรเลือกสีกระเบื้องไปในทิศทางเดียวกับหน้าบานเพื่อให้เข้ากันอย่างลงตัว

9. อย่ากลัวที่จะคิดนอกกรอบ

การรับฟังคำแนะนำของดีไซเนอร์และการเปิดดูนิตยสารตกแต่งบ้านเพื่อหาแนวทางที่ต้องการเป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่อย่ากลัวที่จะคิดนอกกรอบกับสิ่งที่เราเห็นมา หากสมาชิกในครอบครัวชอบขีดเขียนก็อาจแขวนกระดานดำไว้ที่ผนังหรือฝาตู้เย็นได้ การเลือกใช้สีห้องครัวมีความเปิดกว้างมากกว่าห้องอื่นๆ ดังนั้นขอให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่





ขอขอบคุณ: www.homefounder.com